โน้ตน้ำหอมคืออะไร Notes of Scents

Note of scent

โน้ตน้ำหอมคืออะไร ?

เวลาเลือกซื้อน้ำหอมเพื่อน ๆ เคยได้ยินคำว่า Top Note , Middle Note , Base note กันบ้างไหม บางคนก็รู้ว่าคืออะไร แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่รู้ วันนี้แอดมินจะพามาทำความรู้จักกับสามคำนี้กันค่ะ

บางคนอาจจะสงสัยว่าโน้ตน้ำหอมคืออะไร น้ำหอมนั้นมีโน้ตด้วยหรอ ใช่แล้วค่ะ น้ำหอมก็มีโน้ตเหมือนกันค่ะ เพราะจริง ๆ แล้ว เรื่องของกลิ่นก็มีความซับซ้อนซ่อนอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละกลิ่นนั้นก็จะค่อยๆระเหยออกมาให้ได้กลิ่นตามระยะเวลาของโน้ตน้ำหอมเหมือนกันค่ะ

อย่างแรกเลยเรามาทำความรู้จักกับโน้ตน้ำหอมกันก่อนค่ะ ว่าเขาเรียกกันว่าอะไรบ้าง องค์ประกอบของน้ำหอม ปกติแล้วจะมีอยู่ 3 ระดับด้วยกัน คือ Top Note , Middle Note , Base Note

.

Top Note คือ กลิ่นแรกที่สามารถรับรู้ได้ หรือ เรียกว่ากลิ่น opening notes เมื่อเราฉีดน้ำหอม กลิ่น Top Note นี่แหละค่ะ จะเป็นกลิ่นแรกที่เราได้ดมกัน โน้ตกลิ่นนี้จะอยู่ได้ประมาณ 10-20 นาทีแรกเท่านั้นและกลิ่นจะเริ่มจางหายไป จะเป็นกลิ่นที่เบาที่สุดในบรรดาโน้ตทั้ง3ตัว

กลิ่นของ Top Note นั้นส่วนมากจะ ประกอบด้วย พืชในตระกูลของ citrus (lemon, orange zest, bergamot), light fruits (grapefruit, berries) และ herbs (clary sage, lavender)

โน้ตกลิ่นนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นกลิ่นที่จางไวที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญ เพราะการที่เราได้กลิ่นเป็นครั้งแรกที่ดมนี่แหละค่ะ จะเป็นตัวสร้างความประทับใจแรกและเป็นตัวสำคัญในการตัดสินใจว่าเราชอบหรือไม่ชอบกลิ่นนี้ เรียกง่ายๆก็คือรักแรกพบต่อน้ำหอมจะเกิดขึ้นจาก Top note นั่นเอง

.

Middle Note หรือเรียกอีกอย่างว่า Heart Note พอได้ยินคำนี้ ก็พอจะทราบแล้วใช่ไหมละคะว่าโน้ตนี้ จะเป็นกลิ่นหลักของน้ำหอมเลยก็ว่าได้ เป็นกลิ่นที่เข้ามาแทนกลิ่นที่จางไปของTop Note ทำให้กลิ่นของน้ำหอมมีความทนมากขึ้น โดยโน้ตกลิ่นนี้จะติดทนประมาณ 3-6 ชั่วโมง

กลิ่นของ Middle Note นั้นส่วนมากจะเป็นกลิ่นจำพวกตระกูล floral เช่น geranium, rose, lemongrass, ylang ylang, lavender, coriander, nutmeg, neroli และ jasmine.

.

มาถึงกลุ่มสุดท้ายกันค่ะ เรียกว่า Base Note กลุ่มสุดท้ายก็คือกลิ่นที่จะอยู่ติดตัวเราไปตลอดทั้งวัน เป็นการผสมกันระหว่างกลิ่น Middle Note กับ Base Note กลิ่นนี้จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาหลักจากผ่าน 30 นาทีแรกไปแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วจึงเรียกได้ว่าเป็นกลิ่นที่แท้จริงของน้ำหอมกลิ่นนั้นนั่นเองค่ะ โน้ตกลิ่นนี้สามารถติดทนได้นานกว่า 8 ชั่วโมงค่ะ

กลิ่นของ Base Note นั่นจะเป็นจำพวกตระกูลแมกไม้ เช่น cedarwood, sandalwood, vanilla, amber, patchouli, oakmoss และ Musk , vanilla , หญ้าแฝก

.

โดยแต่ละโน้ตนั้นก็จะทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป แต่น้ำหอมทุกกลิ่นก็ยังจำเป็นที่จะต้องมี 3 โน้ตนี้ในการปรุงแต่งกลิ่น เพราะถ้าขาดโน้ตใดโน้ตนึงไป กลิ่นก็จะเป็นกลิ่นที่ไม่สมบูรณ์ค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกกลิ่นจะต้องผสมในปริมาณที่เท่ากันนะคะ ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์นั้นว่าต้องการความติดทนระดับไหน

.

เมื่อเพื่อน ๆ ทำความรู้จักกับโน้ตน้ำหอมแบบคร่าว ๆ ไปแล้ว สำหรับใครที่อยากทราบเกี่ยวกับโน้ตน้ำหอมแบบละเอียด แอดมินจะพาไปรู้จักกับโน้ตน้ำหอมแบบละเอียดกันค่ะ

.

.

Top Note คือ เป็นกลิ่นของโน้ตน้ำหอมที่ต้องมีหน้าที่ความรับผิดชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะ Top Note นั้นเป็นเหมือนกับความประทับใจครั้งแรกที่ได้พบ กลิ่นหอมที่สดชื่นแสดงถึงเรื่องราวของกลิ่น โน้ตนี้มีจุดมุ่งหมายหลักก็เพื่อที่จะดึงดูด first impression ของคนที่ได้ลองสัมผัส และก็ยังเป็นโน้ตที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อ Middle Note เพื่อให้มีความราบรื่นอย่างไม่มีสะดุด

โดยทั่วไปแล้ว Top Note นั้นจะเป็นโน้ตที่มีกลิ่นเบาที่สุดและระเหยได้ง่ายที่สุด กลิ่นจะอยู่ได้ตั้งแต่แรกที่ได้สัมผัส จนถึงประมาณ 30 นาที ที่โน้ตนี้ระเหยง่ายนั้นก็เพราะว่าเป็นโน้ตที่สร้างมาเพื่อไว้ระเหยโดยเฉพาะ ดังนั้นแล้วส่วนประกอบจึงเป็นน้ำมันเบา โดยทั่วไปแล้ว Top Note จะเป็นกลิ่นของ ผลไม้รสอ่อน ขิง ส้ม ส้มโอ มะนาว มะกรูด รวมไปถึง ลาเวนเดอร์ , ดอกคาโมไมล์ ดอกกุหลาบ และดอกไม้ที่มีน้ำหนักเบาเช่นโป๊ยกั๊ก เพราะแบบนี้แหละค่ะ Top Note จึงถูกเรียกกันว่าก้าวแรกในการสร้างเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอม

Middle Note คือ กลิ่นหลักของน้ำหอมหรือเรียกว่าหัวใจของน้ำหอมเลยก็ว่าได้ โน้ตตัวนี้มักเป็นกลิ่นที่ทำมาจาก ดอกไม้และน้ำมันรสเผ็ดร้อน เช่น ตะไคร้ ผักชี พริกไทยดำ ลูกจันทน์เทศ เจอเรเนียม กุหลาบ กระดังงา เนโรลิ ดอกมะลิ ลาเวนเดอร์ สน โรสแมรี่ และจูนิเปอร์ โน้ตตัวนี้มีไว้ก็เพื่อหลอกล่อให้คนที่ได้ลองใช้ครั้งแรกติดใจ แล้วอยากจะใช้ต่อไปเรื่อย ๆ โน้ตตัวนี้นั้นก็จะเป็นตัวเชื่อมต่อกับ Base Note เพื่อให้มีความราบรื่นอย่างไม่มีสะดุดอีกที โดยทั่วไปแล้วกลิ่นก็มักจะมีความหอมหวาน กลมกล่อม และซับซ้อนกว่า Top Note อยู่มาก กลิ่นจะเริ่มแสดงชัดหลังจาก Top Note เริ่มจางไปและโน้ตตัวนี้สามารถติดทนได้ประมาณ 3-6 ชั่วโมง

Base Note คือ เมื่อ Top Note กับ Middle Note ได้ทำหน้าที่ของมันไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะเป็น Base Note กลิ่นนี้จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นเมื่อผ่าน 30 นาทีแรกไปแล้ว หน้าที่ของโน้ตตัวนี้ก็เพื่อที่จะมอบกลิ่นหอมอันยาวนานให้กับผู้ใช้ เพราะเป็นโน้ตที่ติดทนที่สุดใน 3 โน้ต ปกติแล้วBase Note จะเป็นกลิ่นของ ไม้ซีดาร์ ไม้จันทน์ วนิลา อำพัน แพทชูลี่ โอ๊คมอส และมัสค์

.

.

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับความรู้ในเรื่องของโน้ตของน้ำหอมแบบละเอียด หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ในการเลือกน้ำหอมของเพื่อน ๆ ได้บ้างนะคะ

.

CR : https://www.alphaaromatics.com/blog/the-notes-of-fragrance/

.

.

สำหรับใครที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติม

หรืออยากให้เราอออกแบบกลิ่นให้

สามารถสอบถามได้ที่ Inbox หรือ

LINE @MNformula ได้เลยนะคะ

#รับออกแบบกลิ่น #สร้างกลิ่น #ออกแบบกลิ่น #ปรุงกลิ่น #เครื่องหอม

#scentdesign #scentdisigner

.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *